วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

ดอกวอระทาห์


ดอกวอระทาห์


         ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
         ในยุคแห่งดรีมไทม์  ซึ่งเป็นยุคแรกที่บรรพบุรุษของชาวอะบอริจินทั้งปวงก่อกำเนิดขึ้นในโลก  สัตว์ทั้งหลายต่างพูดกันด้วยภาษามนุษย์  ในยุคนั้นดอกวอระทาห์ล้วนมีสีขาว  เมื่อฤดูร้อนมาเยือน  ดอกวอระทาห์ก็จะบานสะพรั่งพร่างพราวทั้งราวป่า  และครั้งนั้นมีนกพิราบน้อยหนุ่มสาวคู่หนึ่งครองรักกันอยู่ในดงดอกวอระทาห์ อย่างแสนสุข
         นกสาวนั้นชื่อ  "วงกา"  ส่วนเจ้าหนุ่มนั้นชื่อ  "ลาพารา"
        ทุกวันนกน้อยทั้งสองจะเกี่ยวก้อยกันหากินอยู่ตามพื้นดิน ใต้พุ่มดอกวอระทาห์ 
       เบื้องบนสูงขึ้นไปนั้นมีเหยี่ยวใหญ่ตัวหนึ่งคอยจ้องจะจับกินเจ้านกทั้งสองเป็นอาหารอยู่ไม่วางตา 

       วันหนึ่ง  นกน้อยทั้งสองพากันออกหากินกันตามปกติ  ภายใต้พุ่มพฤกษาที่มีดอกขาวพราวสะพรั่งอย่างนั้นช่างทำให้แสนเพลิดเพลินนัก  จึงเผลอไผลออกไปไกลถิ่น  จนต่างหลงทางและพลัดพรากจากกัน
      วงกา  สาวน้อยมองหาลาพาราไม่เจอ ก็ออกตามไปทั่วแดนไพร  จนตะวันจวนเจียนจะลับฟ้า
     "ลาพารา..เอย  เจ้าอยู่ไหน"
      เงียบไม่มีเสียงตอบรับ  เธอกระโดดจากพุ่มไม้นี้ ไปพุ่มไม้โน้น  พลางร้องเรียกหาคู่รัก  แต่ทุกอย่างยังคงเงียบ  ลาพาราหลงเข้าไปในป่าลึกจนหาทางกลับออกมาไม่เจอ 
     ลาพารา...
       วงกา  ได้แต่ส่งเสียง  และกระโดดไปบนกิ่งไม้สูงเพื่อมองหา  อย่างลืมตัว  ลืมกลัวเจ้าเหยี่ยวที่คอยจ้องมองอยู่ทุกวินาที 
      ทันใดนั้น !!...อุ้งเล็บอันแหลมคมก็ขยุ้มลงมาที่ร่างของวงกาจนเจ็บปวดแปลบไปทั้งกาย  นกน้อยดิ้นรนสุดชีวิต  เพื่อให้หลุดจากกรงเล็บของพญามัจจุราช ขณะมันพาโฉบเฉี่ยวขึ้นเบื้องสูง
      ความรักความห่วงใย  ใฝ่พะวงว่าคู่รักจะหลงไปอยู่หนใด  จึงต่อสู้กับความเจ็บปวด  ดิ้นรนจนหลุดจากอุ้งเล็บของพญาเหยี่ยวได้
       เมื่อหลุดออกมาแล้ว  ร่างของวงกาก็ร่วงลิ่ว ลิ่ว...  ลงสู่เบื้องล่าง  เลือดสีแดงฉานพุ่งกระฉูดกระเซ็นเป็นสาย หลั่งไหลลงมาเปรอะเปื้อนกลีบดอกสีขาวของวอระทาห์จนแดงฉานไปทั้งป่าดง
       ร่างน้อยร่วงลิ่วลงสู่พื้นแล้วก็กระเสือกกระสนหลบจากมัจจุราช  ความเจ็บปวดยังไม่เท่าความห่วงหาอาลัยคู่รัก  วงกาน้อยยังคงเรียกหาว่า
       ลาพาราเอย.. เจ้าอยู่แห่งใด
       ในที่สุดวงกาก็ขาดใจตายในดงดอกวอระทาห์  ในขณะที่หนุ่มน้อยลาพารา  ก็หลงไปแสนไกล  และเรียกหา  วงกา...วงกา...กุ๊กกรู...เจ้าอยู่แห่งใด
        แต่ยิ่งร้อง  ยิ่งตามหา  ก็ยิ่งห่างไกลกันออกไปไม่ได้พบเจอ
       จนกระทั่งทุกวันนี้ เสียงร้องของพิราบหนุ่มยังดัง  วงกา...วงกา...และวอระทาห์ก็กลายดอกเป็นสีแดงฉานไปทั่วทั่งดินแดนแต่นั้นมา
มีเฉพาะตำนานค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น