วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไฮเดรนเยีย...ดอกไม้แห่งหัวใจด้านชา

ไฮเดรนเยีย ดอกไม้แห่งหัวใจด้านชา





ไฮเดรนเยีย เป็นดอกไม้จากต่างประเทศ ที่เรารู้จักกันมานานแล้ว สันนิษฐานกันว่า นำเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5
คำว่า  hydrangea มาจากรากศัพท์ภาษากรีก ที่ว่า  water (hydro) และ vessel (angeion) = bowel of water ที่เรียกเช่นนั้นคงเป็นเพราะรูปทรงของดอกคล้ายอ่าง  ไฮเดรนเยียเป็นต้นไม้สุดมหัศจรรย์ที่สามารถเปลี่ยนสีดอกได้เพียงแค่ปรับค่าความเป็นกรดด่างของดิน
ดอกไฮเดรนเยีย  หรือที่ต่างประเทศมักรู้จักกันในชื่อ "ฮอร์เดนเชีย" ส่วนคนไทยก็มีชื่อเรียกมากมาย ทั้ง ดอกสามเดือน ดอกหกเดือน หรือดอกสามสี โดยดอกไม้ชนิดนี้มีหลากหลายสี และหลายพันธุ์ เป็นไม้พุ่มสูง 1-3 เมตร บางชนิดเป็นไม้ยืนต้นหรือไม้เลื้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้พุ่มเตี้ย ชอบอากาศหนาวเย็น พืชชนิดนี้มีดอกสวยงาม และมีกลิ่นหอม
รูปร่างมาตรฐานโดยทั่วไปของดอกไม้ชนิดนี้ จะเป็นดอกเล็ก ๆ สี่กลีบอยู่รวมกันเป็นช่อ มีทั้ง สีขาว ม่วง ชมพู หรือฟ้า ที่แปลกและมหัศจรรย์คือ ไฮเดรนเยียจะเปลี่ยนสีของดอกตามสภาพความเป็นกรด-ด่างของดิน ปริมาณของฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมก็มีผลต่อค่าของสีที่เปลี่ยนไปด้วย หากเครื่องปลูกมีสภาพเป็นกรด pH 5.0-5.5 สีดอกจะออกเป็นสีน้ำเงิน ถ้าสภาพเป็นด่างจะให้ดอกสีม่วงหรือชมพูถ้าปลูกในเครื่องปลูกที่สภาพเป็นกลางดอกไฮเดรนเยียจะมีสีครีมซีด สีของเจ้าดอกไม้ชนิดนี้ก็เลยมักจะแตกต่างไปตามสภาพภูมิประเทศ ในตำราต้นไม้บางเล่มแนะนำวิธีเปลี่ยนสีให้ดอกไฮเดรนเยีย คือ ถ้าอยากให้ดอกเป็นสีฟ้าก็ให้เอาตะปูที่เป็นสนิมหรือตะไบเหล็กผสมลงในวัสดุปลูกเพื่อช่วยเพิ่มความเป็นกรด หรืออาจรดน้ำที่ผสมน้ำแกว่งสารส้มก็จะทำให้ดอกเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีฟ้าได้ นิยมปลูกประดับสวน หรือปลูกลงกระถาง ขยายพันธุ์โดยวิธีการปักชำกิ่ง ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการขยายพันธุ์คือช่วงฤดูฝนเพราะสภาพอากาศชื้น และเป็นช่วงที่ต้นพันธุ์แตกหน่อกิ่งก้านมากทำให้มีกิ่งพันธุ์จำนวนมาก.
ในความหมายของดอกไม้ ดอกไฮเดรนเยียทุกสี เป็น ดอกไม้แห่งหัวใจด้านชาเขาว่ากันว่าไม่ควรมอบดอกไม้นี้ให้แก่ผู้ใด นอกจากอยากจะตัดพ้อผู้รับว่า เขาหรือเธอ ช่างเป็นคนใจด้านชาเสียเหลือเกิน แต่ในอีกความหมายหนึ่ง เขาก็ว่า ดอกไฮเดรนเยีย หมายถึง คำขอบคุณ” …Thank you for understanding...ขอบคุณที่เข้าใจกัน ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าลองเอาความหมายมารวมกันอาจจะเป็น "ขอบคุณสำหรับหัวใจที่ด้านชา" ไม่ก็ "ขอบคุณที่เข้าใจหัวใจอันด้านชาของฉัน"





วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิสทีเรีย หนึ่งในเจ็ดต้นไม้มหัศจรรย์ของโลก

วิสทีเรีย หนึ่งในเจ็ดต้นไม้มหัศจรรย์ของโลก 







วิสทีเรีย (อังกฤษ: Wisteria, Wistaria หรือ Wysteria) เป็นพืชในสกุลไม้ดอก ในพืชวงศ์ถั่ว, พืชที่มีฝักซึ่งเป็นหนึ่งใน10 ของสายพันธุ์ไม้เถาวัลย์ มีต้นกำเนิดทางทิศตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และจีน เกาหลี และญี่ปุ่น บางสายพันธุ์นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและญี่ปุ่น แต่สำหรับไม้น้ำที่มีชื่อว่า 'water wisteria' ที่จริงแล้วคือพืช Hygrophila difformis ในวงศ์ Acanthaceae
วิสทีเรีย มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย เช่นเกาหลี จีน ญี่ปุ่น รวมถึงทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ มีประมาณสิบสายพันธ์ ดอกสีขาว ชมพู ม่วงคราม รวมถึงพันธุ์ไฮเบิร์ดสีแดง  แต่สายพันธ์ที่นิยมปลูกกันมากที่สุดที่นี่คือ เจแปนนิสวิสทีเรีย และไชนีสวิสทีเรีย ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันเป๊ะ ยกเว้นลักษณะการพันของเถา เจแปนนิสวิสทีเรีย จะพันเถาตามเข็มนาฬิกา ส่วน ไชนีสวิสทีเรีย จะพันทวนเข็มนาฬิกา ส่วนเรื่องกลิ่นนั้น... วิสทีเรียที่ฮันติงตัน การ์เดนท์ เป็นพันธุ์ญี่ปุ่น ที่หอมน้อยกว่าพันธุ์จีน
ดอกวิสทีเรีย สามารถเกาะเกี่ยวหลักขึ้นไปสูงได้ถึง 20 เมตร โดยกินเนสต์บุ๊กบันทึกไว้ว่า ต้นวิสทีเรียที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น อยู่ที่เมืองเซียร่า มาเดรย์ ของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งวิสทีเรียอายุ 112 ปีต้นนี้ ทอดยอดคลุมพื้นที่ประมาณหนึ่งเอเค่อร์ รวมน้ำหนักกิ่งก้านและเถาประมาณ 250 ตัน
ไชนีสวิสทีเรีย ในเมืองเซียร่า มาเดรย์ (Chinese Wisteria : Sierra Madre) ได้ชื่อว่าเป็นไม้ดอกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของกินเนสต์บุ๊ก แถมให้ดอกดกชนิดเบียดกันถึง 40 ช่อต่อหนึ่งตารางฟุต ให้ดอกกว่า 1.5 ล้านช่อทุกปี เลยได้รับฉายาว่าเป็น หนึ่งในเจ็ดต้นไม้มหัศจรรย์ของโลก (one of the seven horticultural wonders of the world) อีกตำแหน่ง หอการค้าของเมืองเซียร่า มาเดรย์ เลยจัด วิสทีเรีย เฟสติวัล เป็นประจำทุกปี ปีนี้ผ่านไปแล้วเมื่อ 30 มีนาคม
เนื่องจากวิสทีเรียเป็นไม้ตระกูลถั่ว แถมลักษณะดอกคล้ายสวีทพี คนทั่วไปก็เลยคิดว่าเป็นดอกไม้ที่กินได้ แต่ในความเป็นจริง วิสทีเรียเป็นต้นไม้พิษอันดับหนึ่ง ในสิบอันดับดอกไม้อันตรายของหนังสือ Handbook of Poisonous and Injurious Plants บอกเอาไว้ หากกินเข้าไปจะมีอาการคลื่นเหียร อาเจียร เป็นตะคริว และท้องร่วงได้